• วอลเปเปอร์ลายไทยที่มีอายุการใช้งาน 4-5 ปี หลังจากนั้นสีจะเริ่มเหลืองซีดทำให้ห้องดูเก่า แม้จะไม่สวยงามแต่ก็ยังสามารถใช้งานได้อยู่ แต่หากอยากเปลี่ยนบรรยากาศห้องก็ไม่ควรเสียดายวอลเปเปอร์เดิม
• ถ้าเกิดรอยเปื้อนให้ใช้ฟองน้ำชุบน้ำหมาด ๆ ค่อยๆ เช็ดทำความสะอาดให้เรียบร้อย แล้วใช้ผ้าเนื้อนุ่มเช็ดซ้ำอีกครั้งก่อนจะปล่อยให้ผนังแห้งสนิท แต่ถ้าสกปรกมากให้ใช้แชมพูทำความสะอาดแล้วเช็ดด้วยผ้าหมาด ๆ ตามด้วยผ้าแห้ง
• ห้ามใช้ทินเนอร์ น้ำมันเบนซิน หรือน้ำมันสารระเหยต่าง ๆ มาทำความสะอาด นอกจากวอลเปเปอร์ลายไทยบางชนิดจะมีข้อบ่งชี้ว่าใช้ได้
• หลีกเลี่ยงอย่าให้วอลเปเปอร์ลายไทยโดนแสงแดดโดยตรงเป็นเวลานาน ๆ เพราะจะทำให้สีของวอลเปเปอร์ลายไทยซีดจางได้ และควรป้องกันอย่าให้เกิดความชื้นเป็นเวลานานเพราะอาจเกิดเชื้อราขึ้นได้
• กรณีที่มีรอยต่อหรือรอยเผยอออกมาให้ทาด้วยกาวลาเท็กซ์แล้วใช้ลูกกลิ้งกดทับไปมาจนเรียบสนิท ไม่ควรปล่อยให้เกิดรอยเผยอนานเกินไปเพราะจะทำให้ขอบแข็ง แม้กดทับด้วยลูกกลิ้งอย่างไรวอลเปเปอร์ลายไทยก็จะไม่ติดผนัง
• การซ่อมแซมส่วนที่ฉีกขาดหรือมีรอยเปื้อนที่ทำความสะอาดยาก แนะนำให้หาวอลเปเปอร์ลายไทยจากลอตเดียวกันมาทาบกับรอยต่อที่ต้องการ จัดวางลวดลายให้ตรงกับวอลเปเปอร์ลายไทยอันเดิม กรีดด้วยคัตเตอร์ให้เป็นแผ่นใหญ่กว่ารอยขาดหรือรอยเปื้อนเดิม เสร็จแล้วลอกวอลเปเปอร์เก่าออก นำแผ่นวอลเปเปอร์ชิ้นใหม่ที่ตัดแล้วมาทากาวก่อนติดลงบนตำแหน่งที่ต้องการ จากนั้นกลิ้งทับด้วยลูกกลิ้งจนเรียบสนิทไปกับผนัง
– วอลเปเปอร์ลายไทยบางประเภทก็ไม่สามารถใช้น้ำเช็ดหรือล้างได้ โดยสังเกตง่าย ๆ ที่สัญลักษณ์ด้านหลังที่แจ้งเตือนว่าห้ามล้าง ฉะนั้นจึงให้หลีกเลี่ยงไปใช้ไม้ขนไก่ปัดทำความสะอาดแทน หรือจะซื้อน้ำยาทำความสะอาดโดยเฉพาะมาใช้ก็ได้ โดยใช้ผ้าหรือฟองน้ำชุบน้ำยาเช็ดไปในทิศทางเดียวกับรอยเปื้อนหรือคราบฝุ่นต่าง ๆ
บางพื้นที่ก็ไม่เหมาะกับการติดวอลเปเปอร์ลายไทย เช่น
• ผนังบริเวณที่มีหน้าต่าง ไม่ควรติดที่บริเวณนี้เพราะน้ำจะซึมเข้ามาทางขอบหน้าตางตรงวงกบ แนะนำให้หลีกเลี่ยงไปใช้ผ้าม่านที่มีลวดลายสอดคล้องกับวอลเปเปอร์แทนจะดีกว่าได้
• ผนังที่ติดกับระเบียง พื้นที่บริเวณนี้รับทั้งความร้อนและความชื้นจากภายนอกได้ง่าย เมื่อติดวอลเปเปอร์ไปนาน ๆ จะทำให้เกิดการลอกหลุดได้ง่ายกว่าผนังส่วนอื่น ๆ
• ผนังในห้องครัว จะสกปรกง่าย จึงควรใช้กระเบื้องหรือสีทาผนังที่สามารถทำความสะอาดได้แทน