หากว่าคุณมีเวลาว่างมากมายขนาดนี้นะครับลองหาทัวร์รัสเซียเที่ยวเดินเข้าไปหาบริษัททัวร์โดยตรงก็ได้นะครับหากท่านมองหาทริปที่จะเที่ยวแล้วไม่เห็นมีบริษัทไหนที่เค้าจัดเที่ยวรัสเซียสิบวันติดๆกันในช่วงนั้นและกลุ่มของท่านก็ต้องการเดินทางการมากกว่า 10คนขึ้นไปลองเข้าไปคุยครับเที่ยวแบบหลายๆคนผมว่าแฟร์ครับคุ้มทั้งคนจัดทัวร์และคนที่ต้องการเดินทางท่องเที่ยวเชื่อว่าการท่องเที่ยวที่ใช้เวลามากและมีเวลาเหลือเฟือแบบนี้คนจัดทัวร์ก็จัดได้ง่ายสามารถพาเที่ยวในเส้นทางเดียวกันได้หลากหลายถ้าผมว่างสิบวันนะครับคงเที่ยวได้เป็นยี่สิบทีแต่ถึงกระนั้นก็ไม่เกินนี้ไม่มีทางที่คุณจะไม่หยุดพักผมว่าคุณต้องหยุดพักผ่อนบ้างแน่ๆนอกจากทัวร์คุณเป็นคนอึดกระหายการทัวร์รัสเซียมานาน                แต่ผมว่าที่ทำอย่างนี้แบบหยุดสิบวันได้ไม่เป็นคนที่มีธุรกิจของตัวเองที่อยากพักผ่อนยาวๆประจำปีหรืออีกลุ่มคือกลุ่มข้าราชการระดับสูงที่เป็นหน่วยงานใหญ่ๆอยากไปเที่ยวพักผ่อนประจำปีหรืออยากไปเที่ยวศึกษาดูงานไปพร้อมๆกันผมเห็นมาเยอะแล้วเหมือนกันนะครับที่บอกว่าไปดูงานแต่ไปเที่ยวอย่างเดียวใช้งบของประชาชนเที่ยวซึ่งมีจริงๆนะครับในปัจจุบัน แต่อย่างไรก็ดีก็เที่ยวรัสเซียสิบวันให้คุ้มค่ากับการได้ไปเที่ยวให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หรือท่านที่เป็นคนที่มีเงินเก็บอยากทัวร์รัสเซียสิบวันบ้างลองสำรวจเงินเก็บของท่านมีถึงล้านหรือเปล่าครับหากไม่ถึงหยุดก่อนนะครับไม่งั้นเที่ยวอาจจะกร่อยเพราะไม่ได้ซื้ออะไรเลย

เชื่อว่าหลาย ๆ คนที่กำลังมีแพลนจะไปทัวร์ยุโรปนั้น หนึ่งในประเทศที่ต้องไปเยือน คงมีประเทศอิตาลีอยู่ในแพลนเป็นแน่ เพราะเป็นประเทศที่มีความโรแมนติกมากประเทศหนึ่งเลยทีเดียวค่ะ โดยเมืองที่สนใจน่าไปเยื่ยมชมนั้น มีมานำเสนอด้วยกัน 3 เมืองได้แก่ เจนัว มิลาน และปิซ่าค่ะ                เมืองเจนัว นั้นเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของอิตาลีทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นเมืองเก่าที่เป็นศูนย์กลางประวัติศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปเลย โดยมีอ่าวเจนัว เป็นท่าเทียบเรือสาราญ เรือยอชท์หรู เรือใบสีขาวละลานตา และยังคงมีเรือโบราณจำลองขนาดยักษ์ ที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตของชาวเจนัวในอดีต จากนั้นไปต่อกันที่เมืองปิซ่า จัตุรัสดูโอโมที่ถูกลงทะเบียนเป็นมรดกโลกจัตุรัสดูโอโมแห่งปิซา คือบริเวณที่ล้อมรอบด้วยกำแพงลี ประกอบไปด้วยสิ่งก่อสร้างหลัก 4 อย่าง ได้แก่ มหาวิหารปิซา หอเอน หอศีลจุ่ม และ สุสาน                สุดท้ายมาจบที่เมืองมิลาน เมืองแห่งการถลุงเงิน เพราะที่นี่เป็นแหล่งช็อปปิ้งแบรนด์เนมสุดหรู เรียกได้ว่าเป็นเมืองแฟชั่นเลยค่ะ ใครที่มีแพลนจะทัวร์ยุโรป และรักการช็อปปิ้งละก็ควรบรรจุเมืองมิลานเข้าไปในแพลนด่วนเลยค่ะ ที่นี่จะคึกคักมากโดยเฉพาะในช่วงเทศกาล Sale สินค้า ที่อิตาลีนั้นจะมีอากาศดีเกือบตลอดทั้งปี ในฤดูหนาวจะหนาวมาก ดังนั้นหากใครจะไปทัวร์ยุโรปในช่วงนี้ควรที่จะเตรียมเสื้อผ้าให้พร้อมด้วยนะคะ จะได้เที่ยวอย่างสนุกสนานค่ะ

หลายคนนะครับเดินทางไปออสเตรเลียอาจจะเพื่อท่องเที่ยวปกติแต่มีทัวร์ออสเตรเลียในรูปแบบของการไปฝึกภาษาระยะสั้นด้วยเช่นกันนะครับ ออสเตรเลียเป็นประเทศที่คนไทยและนักศึกษาไทยชอบเดินทางไปเรียนภาษากันที่นี่เพื่อผมหลายคนนะครับทัวร์ออสเตรเลียหนึ่งเดือนเพื่อไปเรียนและฝึกทักษะภาษาอังกฤษด้วยและก็ได้เที่ยวด้วยผมว่าก็สนุกดีออกนะครับ หากเราเก่งเรื่องภาษาอยู่แล้วเที่ยวได้อย่างสบายๆ คุณล่ะครับอยากจะเดินทางไปออสเตรเลียบ้างหรือเปล่า หากไม่อยากฝึกภาษาไปทัวร์ออสเตรเลียเพื่อชมความสวยงามตามธรรมชาติก็ได้นะ คุณก็จะได้ภาษาเองจากการสนทนา                สำหรับคนที่ต้องการเดินทางไปก็สามารถที่จะสอบถามบริษัทที่เค้าทำทัวร์ออสเตรเลียดูครับในประเทศไทยมีมากมายค้นหาได้ง่ายตามเว็บไซต์แต่เรื่องความน่าเชื่อถือและคุณภาพนั้นก็ต้องเป็นการดูของท่านเองดูจากที่มีคนเขียนวิจารณ์ก็ดีนะครับหรือหากมีเพื่อนก็ให้เพื่อนแนะนำที่เพื่อนๆเคยเดินทางไปมาแล้วก็ได้ครับ สำหรับค่าใช้จ่ายในการทัวร์ออสเตรเลียก็ไม่ได้แพงมากนักเมื่อเทียบกับการเดินทางไปเรียนภาษาที่ฝรั่งเศสหรือว่าประเทศอังกฤษเรื่องคุณภาพการสอนก็ไม่ได้ต่างอะไรกันเลย                ดีนะครับได้เรียนรู้ภาษาเพื่อนผมอย่างที่บอกมันองกว่าอยากได้ภาษาก่อนเริ่มทำงานกับบริษัทยอมเสียเวลาที่จะเดินทางไปเรียนก่อนเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองซึ่งผมก็เห็นด้วยนะแต่ผมไม่ไปเพราะไม่ชอบภาษาอังกฤษเอาซะเลยอยากที่จะไปเที่ยวอย่างเดียวเท่านั้น อนาคตใกล้นี้อาจจะได้เดินทางไปท่องเที่ยวกัน ท่านล่ะมีแผนทัวร์ออสเตรเลียบ้างหรือเปล่า

บทความในตอนที่แล้วนั้นได้มีการพูดถึงวิธีการทำความสะอาดมู่ลี่ว่าให้ใช้วิธีการปัดฝุ่นด้วยไม้ปัดหยากไย่หรือไม้ปัดขนไก่เบาๆ หรือใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ บิดแล้วค่อยๆเช็ด เพราะเนื่องจากว่าเราไม่สามารถซักแบบผ้าม่านได้แต่ก็ยังมีอีกหลายคนสอบถามมาว่าเราไม่สามารถซักมู่ลี่ได้จริงๆ หรือซึ่งต้องขอบอกครับว่าจริงๆ แล้วเราไม่สามารถซักมู่ลี่ได้อย่างแน่นอนแต่เราสามารถทำความสะอาดมู่ลี่ด้วยการโดนน้ำล้างได้เพียงแต่ต้องทำด้วยความระมัดระวังซึ่งวิธีล้างมู่ลี่ที่ถูกวิธีมีขั้นตอนดังต่อไปนี้ครับ ขั้นตอนแรกสุดให้เลือกบริเวณที่ใช้ในการล้างมู่ลี่โดยอาจจะเลือกลานบ้านที่มีพื้นผิวเรียบและมีความลาดเอียงเล็กน้อยเพื่อเป็นทางให้น้ำไหลและนำผ้านวมหรือผ้าห่มเก่าที่ไม่ได้ใช้แล้วเตรียมเอาไว้ ต่อมาให้ปิดบานพับมู่ลี่ให้ลู่ลง ตรวจดูให้แน่ใจว่าบานพับทุกอันปิดหมดสนิทเรียบร้อยแล้ว จากนั้นจึงถอดมู่ลี่ออกและวางลงบนผ้านวมหรือผ้าห่มที่เตรียมไว้ ถัดมาให้ผสมน้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์หรือน้ำยาแอมโมเนียและใช้น้ำยาที่ผสมนี้ชโลมมู่ลี่ให้ชุ่มทั่วทั้งบานและใช้แปรงนุ่ม ๆ ขัดโดยขัดไปในแนวเดียวกับบานมู่ลี่ ข้อสำคัญในขั้นตอนนี้คือเชือกดึงมู่ลี่จะต้องไม่โดนทับและเมื่อทำความสะอาดบานพับด้านหนึ่งเสร็จดีแล้วก็ปิดบานพับลู่ลงหรือลู่ขึ้นไปอีกด้านหนึ่งล้างและขัดให้สะอาด ขั้นตอนสุดท้ายคือขึงมู่ลี่กับราวตากผ้าหรือขึงกับราวบันไดยาวๆ สูงๆ ก็ได้ หรืออาจจะให้ใครอีกคนยืนถือเอาไว้ก็ได้จากนั้นให้เขย่า ๆ และทิ้งไว้ให้แห้งแล้วจึงนำกลับไปแขวนไว้ที่เดิม แต่ถ้ามู่ลี่เป็นสีเข้มควรซับหรือเช็ดม่าน มู่ลี่ให้แห้งเสียก่อนเพื่อป้องกันคราบหยดน้ำครับ

เนื่องจากประเทศพม่ามีประวัติศาสตร์นานมาพร้อมๆกับประเทศไทยเรา วันนี้ทัวร์พม่าเลยนำมาเล่าเป็นเกร็ดความรู้สำหรับทุกท่าน                ประวัติศาสตร์ของพม่านั้นมีความยาวนานและซับซ้อน มีประชาชนหลายเผ่าพันธุ์เคยอาศัยอยู่ในดินแดนแห่งนี้ เผ่าพันธุ์เก่าแก่ที่สุดที่ปรากฏได้แก่มอญ ต่อมาราวพุทธศตวรรษที่ 13 ชาวพม่าได้อพยพลงมาจากบริเวณพรมแดนระหว่างจีนและทิเบต เข้าสู่ที่ราบลุ่มแม่น้ำอิรวดี และได้กลายเป็นชนเผ่าส่วนใหญ่ที่ปกครองประเทศในเวลาต่อมา ความซับซ้อนของประวัติศาสตร์พม่ามิได้เกิดขึ้นจากกลุ่มชนที่อาศัยอยู่ในดินแดนพม่าเท่านั้น แต่เกิดจากความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านอันได้แก่ จีน อินเดีย บังกลาเทศ ลาว และไทยอีกด้วย ประวัติศาสตร์พม่าแบ่งออกเป็น 7 ยุค ดังนี้ ·       ยุคมอญ มนุษย์ได้เข้ามาอาศัยอยู่ในดินแดนของประเทศพม่าราว 11,000 ปีมาแล้ว แต่ชนเผ่าแรกที่สามารถสร้างอารยธรรมขึ้นเป็นเอกลักษณ์ของตนได้ก็คือชาวมอญ ชาวมอญได้อพยพเข้ามาอาศัยอยู่ในดินแดนแห่งนี้เมื่อราว2,400ปีก่อนพุทธกาล และได้สถาปนาอาณาจักรสุวรรณภูมิ อันเป็นอาณาจักรแห่งแรกขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 2 ณ บริเวณใกล้เมืองท่าตอน (Thaton) ชาวมอญได้รับอิทธิพลของศาสนาพุทธผ่านทางอินเดียในราวพุทธศตวรรษที่ 2ซึ่งเชื่อว่ามาจากการเผยแพร่พระพุทธศาสนาในรัชสมัยของพระเจ้าอโศกมหาราช บันทึกของชาวมอญส่วนใหญ่ถูกทำลายในระหว่างสงคราม วัฒนธรรมของชาวมอญเกิดขึ้นจากการผสมเอาวัฒนธรรมจากอินเดียเข้ากับวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของตนเองจนกลายเป็นวัฒนธรรมลักษณะลูกผสมในราวพุทธศตวรรษที่ 14ชาวมอญได้เข้าครอบครองและมีอิทธิพลในดินแดนตอนใต้ของพม่า ·       ยุคชาวพยู ชาวปยูหรือพยูเข้ามาอาศัยอยู่ในดินแดนประเทศพม่าตั้งแต่ราวพุทธศตวรรษที่ 4 และได้สถาปนานครรัฐขึ้นหลายแห่ง เช่นที่ พินนาคา (Binnaka)มองกะโม้ (Mongamo) ศรีเกษตร (Sri Ksetra) เปียทะโนมโย (Peikthanomyo) และหะลินยี… Continue reading เรื่องน่ารู้ – ประวัติศาสตร์ประเทศพม่า